นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความเห็นต่อสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหากการจัดตั้งรัฐบาลนั้นเกิดขึ้นช้า ว่า ตนมองว่ายังไม่ช้าเนื่องจากทุกอย่างยังอยู่ในขั้นกระบวนการ แล้วจริงๆ แล้วขั้นตอนการรับรองสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ก็ทยอยออกมาแล้ว โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ก็ใช้ระยะเวลาเกือบ 60 วัน แต่ปีนี้ใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียวเอง

ส่วนได้มีการตรวจสอบรายชื่อการรับรอง ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ เนื่องจากมีการประกาศออกมาว่าจะยังไม่มีการรับรองในส่วนของพรรค 23 ราย เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียน นายอนุทินระบุว่า การที่มีชื่อของพรรคภูมิใจไทยถึง 23 คนในทำนองนี้ อาจเกิดจากมีการร้องเรียนของประชาชนไปหรือไม่ แต่ทางภาคภูมิใจไทยไม่ได้ไปร้องเรียนใคร เนื่องจากจะทำให้เสียเวลามากยิ่งขึ้น เรามองว่าทั้ง 23 คนจะต้องไปหาหลักฐาน เพื่อลบล้างข้อกล่าวหาต่างๆ ส่วนหากการดำเนินการของเขา มาปรึกษาหารือในเรื่องของข้อกฎหมาย หรือให้เตรียมหลักฐานที่จะต้องไปชี้แจง ทางพรรคก็มีฝ่ายกฎหมายที่จะประสานงานและให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี หากมีปัญหาในเรื่องของตัวบุคคลจะกระทบต่อการโหวตเลือกหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อน ตอนนี้ขอให้แต่ละขั้นตอนเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะเราก็รอการรับรองส.สของกกต.อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเชื่อว่า ไม่มีทางตันหรอกทุกอย่างก็เป็นอย่างนี้มาตลอด

"วิโรจน์" ซัดรองผอ.สำนักพุทธ กล่าวหาไม่สนับสนุนศาสนา

ไทยตั้งรัฐบาลใหม่ช้า กระทบเบิกจ่ายงบ ลุกลามการลงทุน-บริโภคในประเทศ

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะพิการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีแข่งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอดูก่อนว่ามีส.ส. ที่กกต.รับรองจำนวนกี่คน ก็ถามต่อว่ามีใครในใจที่จะโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ถ้ามีในใจแล้วจะมาบอกสื่อมวลชนทำไม

เมื่อถามว่าหากมองดู สถานการณ์จะรุนแรงหรือไม่เนื่องจากมีการงัดข้อกฎหมายมาเป็นประเด็นกันในขณะนี้ นายอนุทินระบุว่าอย่างหรอก เพราะแต่ละพรรคต้องดำเนินการตามแนวทางของพรรคตัวเอง แต่พรรคภูมิใจไทยดีหน่อยที่เราไม่ไปยุ่งกับพรรคคนอื่น และทุกอย่างก็ได้ทำตามที่แจ้งกับประชาชนไว้ว่าแนวทางของพรรคนั้นเป็นอย่างไร

"เรายังยืนยันว่า พรรคที่ 1ก็ควรจะเป็นผู้ที่ประสานงานจัดตั้งรัฐบาลไป พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคลำดับที่ 3 ก็ต้องไม่ทำอะไรให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ของพรรคที่มีส.ส.มากกว่าเรา"

เมื่อถามย้ำว่านายอนุทิน ก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยเหมือนกัน นายอนุทินกล่าวว่าหากเป็นพรรคลำดับที่ 1 ก็ค่อยคิด แต่มาเป็นลำดับที่ 3 ก็ไม่ค่อยคิดหรอก

ส่วนระหว่างนี้ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่ได้คุยเลย และตนก็ไม่ได้คุยกับใครเลย รวมถึงเขาก็ไม่ได้คุยกับเรา ต่างคนต่างอยู่ตอนนี้

เมื่อถามถึงกระแสพรายกระซิบ ว่าจะมีการเปลี่ยนสูตรในการจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน ถามกลับว่า แล้วพรายเห็นหรือเปล่า แต่มีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวหนึ่ง เดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ก็เห็นว่าไม่ได้มีการพูดคุยดีลลับอะไร นอกจากการทักทายตามปกติและตามมารยาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 "อนุทิน" ไม่หวั่น 23 ว่าที่ ส.ส.พรรคถูกชะลอรับรอง ลั่น! ไม่มีพรายกระซิบเปลี่ยนสูตรตั้...

ฉะนั้นเราต้องดูรักความเป็นจริงด้วยว่าวันนี้จะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะโทรไปหาคนนู้นคนนี้ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้มาเป็นพรรคในลำดับที่ 1 ต้องรอทุกอย่างให้มันดำเนินไปว่าสถานการณ์จะราบรื่นอย่างนี้ไปตลอด จนถึงขั้นตอนการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พร้อมกับระบุว่า ถ้าเป็น เราก็อย่าไปเป็นอุปสรรคให้เขา เพราะประเทศมันควรจะมีรัฐบาลต่อเนื่องตลอดเวลา

ส่วนหากสถานการณ์ยืดเยื้อเช่นนี้จะส่งผลกระทบกับด้านใดบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า มันยังไม่ยืดเยื้ออะไร ทุกอย่างยังคงเดินหน้าไป วันนี้กกตก็เริ่มทยอยแจ้งมาว่าติดขัดอะไร เพราะฉะนั้นดูแนวโน้มมันก็เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เขาเซ็ตเอาไว้

เมื่อถามว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการรวบรวมรายชื่อเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติคนที่จะมาเป็น ส.ส.ตามมาตรา 82 ภายหลังจากที่กกต.มีการรับรอง นายอนุทิน กล่าวว่าก็ขึ้นอยู่กับหลักฐาน และข้อกล่าวหาต่างๆ แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็ดูแลในส่วนของเรา แต่ถ้าหากใครทำผิดกฎหมายโจ๋งครึ่มจนก่อความเดือดร้อนต่อสาธารณะ เราก็จะต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่หากอยู่ดีๆแล้วไปมีการแต่งเติมขึ้นมาตนขอยืนยันว่าไม่มี เพราะพรรคภูมิใจไทยนั้นทำไม่เป็นเพราะเราคำนึงถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองเป็นหลัก แต่เรื่องส่วนตัวมันก็จะลำบากจะต้องไปแต่งเติมเสริมแต่ง อะไรเยอะแยะไปหมด

ส่วนเป็นห่วงกองเชียร์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ควรใช้เหตุใช้ผลและบ้านเมืองเป็นหลัก ก็ถ้าบ้านเมืองไม่สงบมันก็จะไม่กระทบเฉพาะคนที่อยู่แต่ในสภาฯ แต่มันจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจ การจ้างงาน การลงทุน การท่องเที่ยว รวมไปถึงสาธารณประโยชน์ต่างๆ ฉะนั้นเราเป็นผู้แทนเข้ามาอาสาทำงานให้กับประชาชน เราก็ควรที่จะคำนึงถึงสาธารณประโยชน์สิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งพรรคภูมิใจไทยคิดแบบนี้จึงไม่ค่อยมี การกระทำใดๆที่ก่อให้เกิดอุปสรรค

By admin